เผยอยากได้บัตรประชาชน ก่อนตาย – เชื่อชาติหน้าจะได้เป็นคนไทย…เชื่ออนุทินไม่ทำเพราะไม่เข้าใจคำว่า “คนไร้สัญชาติ”
เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 น.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2567 ได้พานายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่บ้านโป่งป่าแขม อ.แม่จัน จ.เชียงราย โดยได้พบกับชาวบ้านกลุ่มชาติพันธุ์ และตนได้เล่าให้นายกรัฐมนตรีฟังถึงปัญหาของคนไร้สัญชาติ ซึ่งแม้ใน อ.แม่จันจะมีอยู่ไม่เยอะ แต่ใน อ.แม่ฟ้าหลวง มีอยู่นับหมื่นคน แต่กระบวนการพิจารณาให้สัญชาติเป็นไปอย่างล่าช้า เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่รัฐหรือฝ่ายทะเบียนที่ทำในเรื่องนี้น้อย ขณะที่ชาวบ้านที่กำลังมีปัญหาสัญชาติมีอยู่จำมาก นายกรัฐมนตรีจึงสั่งให้เร่งแก้ปัญหาในเรื่องนี้
“ท่านนายกฯ บอกว่า จริงๆ แล้วคนที่พิสูจน์ทราบว่าเกิดในประเทศไทยหรืออยู่ในประเทศไทยมายาวนาน ก็น่าจะเร่งรัดและลดขั้นตอนลงได้ เพื่อใช้ระยะเวลาในการพิจารณาให้สั้นลงโดยไม่ต้องส่งเรื่องให้กระทรวงมหาดไทย แต่กระจายอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือนายอำเภอ เป็นผู้ตรวจสอบและอนุมัติได้เลย เพราะการส่งเข้าไปสู่กระทรวงมหาดไทยทำให้กระบวนการล่าช้าเพราะกระทรวงมหาดไทยต้องดูแลคนทั้งประเทศ ดังนั้นจึงน่าจะกระจายอำนาจให้ผู้ว่าฯ หรือนายอำเภอ ท่านนายกฯ จึงบอกว่าจะลดขั้นตอนและระยะเวลาในการพิสูจน์สัญชาติที่เคยใช้เวลานานนับปี เหลือแค่ 5 วัน” น.ส.ปิยะรัฐชย์ กล่าว
สส.เชียงรายกล่าวว่า อ.แม่ฟ้าหลวง มีผู้ประสบปัญหาสัญชาตินับหมื่นคน บางรายรอมา 60 ปีคือขอสัญชาติมาตั้งแต่ 2508 แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่ได้ จึงเป็นปัญหาที่ได้เรียนให้นายกฯ รับทราบและนายกฯ ได้สั่งการให้มีการแก้ไขปัญหา เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นปัญหาแค่ประชาชนชาติพันธุ์ในเชียงรายหรือภาคเหนือเท่านั้น แต่ในภาคอีสาน ภาคใต้ก็มีอยู่จำนวนเยอะ ภาคอื่นๆ ก็มีปัญหาเช่นกัน
นายแอ่น ลิวไชย นายกสมาคมไทลื้อ กล่าวว่าปัจจุบันมีผู้เฒ่าไร้สัญชาติชาวไทยลื้อ ใน อ.แม่จัน 30 คน ที่ทำเรื่องขอแปลงสัญชาติ ผ่านการสอบสัมภาษณ์ระดับจังหวัดไปแล้วเมื่อ 4 ปีก่อน แต่เสียชีวิตไปแล้วถึง 16 คนโดยไม่ได้รับการแปลงสัญชาติ อย่างไรก็ตามได้เคยติดตามเรื่องสอบถามไปที่จังหวัดซึ่งได้รับคำตอบว่าตอนนี้เรื่องอยู่ที่โต๊ะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้ว ซึ่งชาวบ้านก็รอแล้วรออีกแต่ก็ยังไม่ได้ โดยผู้เฒ่าก็อยากไปตามไปตามเรื่องที่กระทรวงมหาดไทย เพราะหลายคนรอกันไม่ไหวแล้ว ที่ อ.แม่สรวย มีผู้เฒ่ายื่นขอแปลงสัญชาติ ผ่านระดับจังหวัดแล้ว 30 คนแต่กระบวนการล่าช้าจนเสียชีวิตไปแล้ว 11 คน
“ผู้เฒ่าอยากวิงวอนให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ช่วยติดตามและอนุมัติให้หน่อย เพราะคนเฒ่าตายไปเยอะแล้วระหว่างรอทำบัตรประชาชน ก่อนตายพวกท่านอยากเป็นคนไทย เพราะเกิดชาติหน้าก็จะได้เป็นคนไทย อยากให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอนุมัติ แต่ละคนอายุ 65 ปีขึ้นไป พวกท่านเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานจนเป็นตำรวจ ทหาร พยาบาล เป็นกำลังในการพัฒนาประเทศไทย ลูกๆ หลานๆ ต่างเป็นคนไทย มีบัตรประชาชน แต่คนเฒ่าคนแก่เหล่านี้กลับยังไม่ได้บัตรประชาชนทั้งๆ ที่อยู่ในประเทศไทยกันมาแล้ว 60-70 ปี” นายแอ่น กล่าว
ทั้งนี้จากข้อมูลของนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา (พชภ.) ซึ่งผลักดันการแก้ปัญหาผู้เฒ่าไร้สัญชาติ พบว่าในจังหวัดเชียงราย มีผู้เฒ่าอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่มีภูมิลำเนาบนแผ่นดินไทยอย่างยาวนานกว่า 40 ปีขึ้นไป จนกลมกลืนกับสังคมไทย ได้ขอแปลงสัญชาติเป็นไทย ตามพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 จำนวน 16,598 คน ทั้งนี้คณะกรรมการกลั่นกรองเกี่ยวกับสัญชาติ ตามมาตรา 25 พรบ.สัญชาติ ได้อนุมัติคำร้องแล้วราว 1,000 คน ซึ่งเป็นกลุ่มต่างด้าวทั่วไปและชนกลุ่มน้อย แต่ยังไม่ได้รับการลงนามจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย …
อย่างไรก็ตามก็มีความเชื่อว่าทาง นายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะไม่เดินหน้าทำเรื่องนีร้ เหตุก็เพราะว่า ท่านไม่มีความเข้าใจเรื่องของคำว่า คนไร้สัญชาติ เพราะท่านจะมองว่าคนเหล่านี้คือพม่า ทั้งสิ้น เช่นเดียวกับบัตร 10 ปีที่รัฐบาลนี้ไม่ขยับ และพยายามที่จะสร้างเงื่อนไขให้มากขึ้น ในว่าเพื่อป้องกันสวมสิทธิ์ แต่ไม่มีการออกคำสั่งให้มีการตรวจสอบ ข้อเท็จจริง จึงไม่รู้ว่า เจ้าหน้าที่รัฐ และกลุ่มนายหน้าแอบทำกัน จำนวนมากด้วยค่าจ้างที่พุ่งสูงจาก คนละ 15,000 สูงถึง 6-70,000 บาทในขณะนี้…