จากเหตุ อุทกภัยและดินโคลนถล่ม เมื่อวันที่ 23 ส.ค.67 ทำให้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักในพื้นที่อำเภอเมืองภูเก็ต ทำให้ความเสียหายต่อ ชีวิต ร่างกายทรัพย์สิน บ้านเรือน พื้นที่การเกษตร ประมง ปศุสัตว์ สิ่งสาธารณประโยชน์ และเพื่อประโยชน์ในการจัดการสาธารณภัยให้เป็นไปตามแผนการป้องกันและบรรมทาธารณภัยแห่งชาติและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เร่งด่วน อาศัยอำนาจตามความ ข้อ 20 วรรคสามของระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินพ.ศ.2562 ประกอบกับแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัด/ผู้อำนวยการจังหวัด จึงประกาศให้พื้นที่ หมู่ที่ 1, 2, 3, 4, ตำบลกะรน, หมู่ที่ 1, 2 ตำบลราไวย์ และ หมู่ที่ 8, 9,10 ตำบลฉลอง
เป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย/เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เพื่อให้ส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เข้าดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในเขตพื้นที่ประสบภัยดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และแผนอื่นที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง ประกาศ และมติคณะรัฐมนตรี
ที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว และดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงการคลัง
กำหนด ทั้งนี้ ต้องไม่เกิน 3 เดือน นับแต่วันที่เกิดภัยประกาศ ณ วันที่ 23 เดือน สิงหาคม พ.ศ.267 นายศรัทธา ทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต/ ผู้อำนวยการจังหวัด
เบื้องต้น ได้รับรายงานเหตุด่วนสาธารณภัยจากอำเภอเมืองภูเก็ต พบว่า มีผู้เสียชีวิต จำนวน 5 ราย (เพศหญิง จำนวน 3 ราย และเพศชาย จำนวน 2 ราย) บาดเจ็บสาหัส 3 ราย (รักษาตัวที่โรงพยาบาลฉลอง จำนวน 1 ราย ส่ง
ต่อโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต จำนวน 2 ราย) บาดเจ็บปานกลาง 3 ราย (รักษาตัวที่โรงพยาบาลฉลอง จำนวน 2
ราย ส่งต่อโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต จำนวน 1 ราย) บาดเจ็บเล็กน้อย 13 ราย และเร่งค้นหาผู้สูญหายอีกจำนวน 3 ราย(คาดการณ์ว่าเสียชีวิต)
ที่มา : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต