วันนี้ให้จับตาการสู้รบ ชายแดนไทย-พม่า ด้าน อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ที่กำลังจะประทุ อย่างหนัก ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันนี้-ดังนั้นวันนี้จึงอยากมาให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ รัฐบาล และ ประชาชนชาวไทยทั้งประเทศว่า ข้อเท็จจริง เป็นอย่างไร
1-เมื่อคืนของวันที่ 4 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา เวลา โดยประมาณ ตี3 เศษ ได้เกิด การระเบิดขึ้นที่เมืองเมี้ยวดี จากสายข่าวของเราที่เมียวดีแจ้งว่า การเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่ เมี้ยวดีนั้นมาจาก กลุ่ม ต่อต้าน รัฐบาลพม่า คือกลุ่ม KNU.และกลุ่มพันธมิตรกระเหรี่ยง อันเนื่องมาจาก การที่ทางทหารพม่าพยายามที่จะ ละเมิดข้อตกลง และจะนำกำลังเข้ามา ในเมืองเมียวดี และพื้นที่ปกครองของกระเหรี่ยง ในพื้นที่ต่างๆ ดังนั้นทางกะเหรี่ยงไม่ยอมจึงมีการวางระเบิดเมืองเกิดขึ้น แต่ยังไม่ทราบคงวามเสียหายว่า มีความเสียหายอะไรบ้าง และมีผู้ที่เสียชีวิต มากน้อยแค่ไหน แต่เสียงระเบิดในครั้งนี้น่าจะเป็นระเบิดที่มีขนาดใหญ่ เพราะเสียง ดังหนักแน่นมากๆ สะเทือนมาถึงฝั่ง อำเภอแม่สอดจังหวัดตาก และได้ยินเสียงอย่างชัดเจน
2- หากเปิดศึกครั้งนี้จะหนักหน่วงกว่าทุกๆครั้งที่ผ่านมา เพราะต่างฝ่ายต่างก็พยายามขนอาวุธ หนักนาๆชนิด เข้าประจำการและพร้อมที่จะเปิดศึกครั้งใหญ่แบบชี้เป็นชี้ตายในครั้งนี้ ไม่เพียงอาวุธหนัก ภาคพื้นดินเท่านั้น แต่ฝ่ายต่อต้าน รัฐบาลทหารพม่า ยังมีเครื่องยิง อากาศยานจากพื้นสู่อากาศ ที่มีประสิทธิภาพ อย่างดีอีกจำนวนมาก ดังนั้นถึงแม่ว่า รัฐบาลทหารพม่าจะใช้เครื่องบินโหมเข้ามาโจมตี ก็ไม่สามารถใช้เครื่องบินรบ เต็มประสิทธิภาพได้เพราะหากใช้ก็จะบินล่วงล้ำเข้ามาในประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน ก็จะเกิดข้อพิพาท ระหว่างรัฐบาลไทย กับรัฐบาล พม่าในทันที ดังนั้น อากาศยานที่จะนำมาใช้ได้ก็คือ อากาศยานปีกหมุน หรือเฮลิคอปเตอร์เท่านั้น และหากนำมาใช้ก็จะตกเป็นเป้าการทำลายล้างของกลุ่มกะเหรี่ยงในทันที เพราะมีเครื่องยิงจรวด ภาคพื้นที่ ที่รอสอยอยู่แล้วจึงคาดว่าจะเกิดความเสียหายอย่างหนักขึ้นขึ้นกับกองทัพพม่า
ส่วนภาคพื้นดินนั้นทหารราบที่พม่าจะขนเข้ามานั้นก็เข้ามาได้ แต่จะกลับออกไปยากลำบากเพราะทางกองกำลังกะเหรี่ยง ได้วางยุทธศาสตร์ตรงนี้ไว้ อย่างดีเยี่ยมทั้งหมดแล้ว เมื่อยกพลเข้ามาก็จะถูก กะเหรี่ยง ทำลายทั้งกำลังพลที่ฝึกใหม่ และ อาวุธยุทธโปกรณ์ต่างๆ ลงอย่างย่อยยับ อย่างแน่นอน
3-ข้อที่รัฐบาลไทยต้อง เพิ่มความระมัดระวัง ก็คือ-พม่าจะพยายามหาทางรุกล้ำเข้ามาในประเทศไทยไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เพราะเป็นการสร้างปัญหาให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย เพื่อที่จะดึงไทยเข้าสู่ ภาวะสงคราม เพราะเวลานี้ ทางรัฐบาลทหารพม่ามีการว่าจ้างกองกำลังทหารรับจ้างจากรัฐเซียจำนวนไม่น้อยเข้ามาทำการสู้รบในพื้นที่ พม่า และคาดว่า การที่จะเปิดการสู้รบขึ้นที่เมียวดี พม่ามีแผนที่จะรุกล้ำอธิปไตยของไทยอย่างแน่นอนเพื่อที่จะดึงประเทศไทยเข้าสู่ภาวะสงคราม – แผนนี้อันตรายต่อประเทศไทยอย่างมาก เพราะที่ผ่านๆมา ไทยนิ่งเฉย ไม่สนเรื่องของกลุ่มชาติพันธุ์ ที่เปรียบเสมือนเป็นกำแพง ปกป้องด้านชายแดนไทยระหว่างพม่ากับไทยมานานนับร้อยๆปี แต่บัดนี้รัฐบาลตั้งแต่ยุคเศรษฐา กลับไม่สนใจใยดีใดๆ จึงเป็นช่องโหว่ช่องว่าง ที่จะทำให้พม่า เดินตามแผนที่วางไว้ได้ อย่างเต็มที่
และให้จับตามอง กลุ่ม พม่าในประเทศไทย กลุ่มก้อนแก๊งค์ต่างๆที่ออกมาเคลื่อนไหว อย่างผิดปดติ และเคลื่อนไหวถี่ขึ้นๆ นั้นก็เพราะ รัฐบาลทหารพม่าเขาว่าแผนไว้แล้ว ดังที่เคยมี หญิงพม่าออกมาขู่ว่าจะทำให้ประเทศไทย ไม่ให้มีความสงบ เพื่อให้ประเทศไทยคนไทย เกิดความระส่ำระส่าย ปั่นป่วนวุ่นวาย เขาก็จะก่อวินาศกรรม และเข้ายึดพื้นที่ สำคัญๆของไทยเพื่อทการต่อรอง ไทยก็จะพบทั้งศึกนอง และศึกใน แต่หากตอนนั้นเรา ประสานทุกๆฝ่ายแม้แต่กลุ่มชาติพันธุ์ เราก็จะสามารถเอาคนเหล่านี้มาเป็นกำแพงสกัดกั้นพม่าได้ แต่ตอนนี้ จึงน่าห่วง กับสิ่งที่จะเกิดขึ้น อย่ามองข้ามว่า จะไม่เกิด มันเริ่มส่อแววแล้ว ด้วยการที่พม่าออกมาท้าทาย และลองของสารพัด เรื่อง แต่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐก็ยังเพิกเฉย ยังเดินเก็บส่วย โกงกินชาติบ้านเมืองอย่างสุขอุราไปวันๆ ทั้งๆทีเหตุใหญ่กำลังจะเกิด กับประเทศไทย และคนไทย อยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะจับตา การอพยพครั้งใหญ่ที่สุดกำลังจะเกิดขึ้น และในกลุ่มผุ้อพยพนั้นจะมีทั้งประชาชนที่แท้จริงที่หนีภัยส่งคราม และมี ทหาร สายสืบพม่าปะปนมาอย่างมากมาย เพื่อเข้ามา ประสานกับกลุ่มที่เข้ามาแล้ว ทำการอย่างใดอย่างหนึ่งกับประเทศไทย
4-ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินการ ณ เวลานี้อย่างเร่งด่วนก็คือ
1-เตรียมพร้อมรับมือผู้อพยพ หากเข้ามาจะต้องกักในทันที และอย่าปล่อยให้เข้ามาสู่ ประเทศ ชั้นในได้โดยเด็ดขาด
2-ในเวลานี้ทำทันทีคือ การจัดกำลัง เจ้าหน้าที่รัฐทุกๆฝ่าย เข้าทำการตรวจค้น สำรวจ แรงงานต่างด้าว ทุกชาติ ที่อยู่ในประเทศไทย แล้วเร่งผลักดันออกนอกประเทศโดยด่วน โดยเฉพาะกลุ่มที่แสดงตัวแสดงตน และกลุ่มแกนนำที่เป็นทั้งนายหน้า ทั้งคนที่ขนพม่าเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย กลุ่ม NGO.และกลุ่มนอมินี ที่เป็นคนไทย ที่พากันตั้งมูลนิธิฯ แล้วเปิดการเสวนา กันขึ้นในหลายพื้นที่ ในประเทศไทย คนกลุ่มนี้อันตรายต่อประเทศไทยอย่างมาก
** ทีนี้มาเข้าใจคำนิยามคำว่า พม่า และชาติพันธุ์ที่เกี่ยวข้อง.-
กะเหรี่ยง-พม่า กับกะเหรี่ยงกู้ชาติ และกะเหรี่ยงในประเทศไทย-กะเหรี่ยงพม่าคือ กะเหรี่ยง พุทธ กลุ่ม หม่องชิตตู่ ที่นิยมพม่าและเป็น กองกำลังปกป้องชายแดนให้พม่าคือกองกำลัง BGF.ทามีหม่องชิตตู คุมกำลังอยู่ พม่าสนับสนุนทั้งเงินและอาวุธ กะเหรี่ยงกลุ่มนี้จะเข้ามาก่อกวนในประเทศไทยร่วมกับกลุ่มพม่าแท้ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้-ส่วนกะเหรี่ยงกลุ่ม KNU.นั้น เป็นกะเหรี่ยงที่ต้องการอิสรภาพ ต้องการผืนแผ่นดิน ของเขาคืน ตามพันธสัญญาเก่า ที่บอกไว้ว่า หาก กะเหรี่ยง ช่วยพม่าต่อต้าน อังกฤษ และ พม่าได้อิสระภาพจาก อังกฤษ ก็คืนพื้นที่ รัฐกะเหรี่ยงให้ปกครองตนเองตามที่ต้องการ เพราะมันเป็นของกะเหรี่ยงเดิมอยู่แล้ว แต่ท้ายที่สุดพม่าก็หักหลัง เข่นฆ่าผู้นำทิ้งทั้งหมด นั่นคือสัญญาปางโหลง กะเหรี่ยงเขาจึงไม่ยอม เหมือนชาติพันธุ์อื่นๆ ที่กำลังสู้รบกันอยู่ในขณะนี้ KNU.คือกะเหรี่ยงที่รักคนไทย รักประเทศไทย จะไม่สร้างปัญหาให้กับคนไทย ให้กับประเทศไทยอย่างแน่นอน แต่กะเหรี่ยงที่สร้างปัญหาคือกะเหรี่ยงกลุ่ม หม่องชิตตูที่ยืนข้างพม่า และ กะเหรี่ยงกลุ่มสุดท้ายคือกะเหรี่ยง ปกาเกอญอ กะหร่าง ที่อยู่ในประเทศไทย เป็นคนไทย มีบัตรประชาชนไทย คนกลุ่มนี้ เขาพร้อมที่จะออกมาปกป้องประเทศไทย และเขาไม่ชอบพม่า แต่อย่างใด – นี่คือสิ่งที่นำมาบอกกล่สาวให้ทราบในวันนี้
ดังนั้นรัฐบาลจะต้องเร่งตรวจสอบในทันทีไม่ใช่ต้องรอวันนี้ พรุ่งนี้ เรื่องแรงงานต่างด้าวเถื่อนที่ผิดกฎหมาย ทุกชาติ และส่งกลับ รวมทั้งกวาดล้างขบวนการ พม่า ที่กำลังดำเนินการในประเทศไทยอยู่ในขณะนี้ และ ต้องพร้อมเรื่อง ค่ายอพยพ เพื่อที่จะรองรับ หากไม่เตรียมการใดๆ ปัญหาครั้งนี้ จะใหญ่หลวงและเสียหายอย่างมหาศาลกับประเทศไทย อย่างแน่นอน….